นายพัศพงศ์เจริญฐานวงศ์ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริษัททีซีจีโซเชียลมีเดียกรุ๊ปจำกัดเปิดเผยว่าบริษัทเตรียมเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลใหม่ชื่อDGCหรือDigital Gold Coinเป็นเหรียญในกลุ่มAsset Coinโดยสนับสนุนมูลค่าจริงด้วยเครือข่ายเหมืองทองในต่างประเทศซึ่งทำให้ได้รับการยอมรับและมีความน่าเชื่อถือสูงทั้งในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกกลางและแอฟริกาโดยมีแผนที่จะขึ้นเทรดหรือซื้อขายในช่วงหลังสงกรานต์2566นี้
ขณะเดียวกันได้ร่วมลงนามในสัญญากับ พีทีแอล โฮลดิ้ง บริษัทมหาชนระดับอาเซียน เจ้าของโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงรายแรกของอาเซียน เพื่อพัฒนา LAOCOINS และยังได้สัมปทานทำระบบ Securities Token และ GoldBanc Vault ของกลุ่ม AFRASEAN โดยได้รับสัมปทานในการทำ Digital Asset และ Digital Bank license ของประเทศ Mauritius ในแอฟริกา เพื่อใช้เป็นมาตรฐานในการวัดค่าเงินกับทองคำดิจิตอลคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นอกจากนี้ยังจับมือกับกลุ่มIslamic coinและWASABIHเพื่อนำDGCเข้าทำการBack Upมูลค่าของHalal Coinเพื่อใช้จ่ายและสนับสนุนในกลุ่มการเงินและธุรกิจของกลุ่มประเทศมุสลิมเนื่องจากตะวันออกกลางเป็นกลุ่มประเทศที่แนวคิดเปิดกว้างในด้านการเงินดิจิทัลรูปแบบใหม่ส่วนเหรียญดิจิทัลDGCจะขึ้นกระดานเทรดเปิดขายเป็นPublicในกระดานExchangeอันดับ3ของโลกXT.comในวันที่4กรกฎาคม2566โดย1เหรียญของDGCจะfix rateอยู่ที่100 USDซึ่งขึ้นอยู่กับราคาทองคำณวันนั้นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
สำหรับแผนงานในอนาคต จะมีการขยายมูลค่าเข้าสู่กลุ่ม Assets Coin เช่น METAIN VIETNAM, COFUND INDONESIA, LIQUID TREE USA GLOBAL, EXPRIZO = EU & MENA & AFRICA และที่สำคัญคือการเปิด DGB โดยเชื่อมต่อกับ Bullions Bank ธนาคารอิสระที่ไม่ถูกควบคุมกลไกโดยหน่วยงานรัฐ แต่เป็นไปตามกลไกของตลาดฝั่งผู้ใช้งาน โดยหลักการระบบการเงินโลก ซึ่งถ้าหากเราใช้มูลค่าทองคำค้ำประกัน ก็สามารถผลิตเงินสกุลต่างๆ ออกมาได้ตามเงื่อนไขสากล ดังนั้น สกุลเงินดิจิทัลก็เช่นกัน ส่วนภาพใหญ่ในระดับประเทศ ตามกระแสเรื่องการเงินดิจิทัลที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญพิเศษ เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
นายพัศพงศ์กล่าวว่าเราสามารถสร้างกลไกการเงินดิจิทัลใหม่ขึ้นมาได้เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจในรูปแบบที่เรียกว่าDigital Assets Managementคือเป็นการดึงเอามูลค่าของสินทรัพย์ที่มีอยู่แล้วในตัวมาแปลงให้เป็นตัวเงินในระบบเศรษฐกิจซึ่งการตีมูลค่าสินทรัพย์ให้มีมูลค่าในระบบการตลาดการบริโภคของประชาชนและสามารถโอนถ่ายได้คล่องตัวจะช่วยทำให้เศรษฐกิจมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องผ่านตัวกลางทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากสินทรัพย์นั้นโดยตรงยิ่งหากสินทรัพย์นั้นมีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนมือได้หลายรอบก็สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้หลายเท่านี่เป็นแนวคิดที่ถ้าผู้นำประเทศรู้จักนำกลไกเครื่องมือและเทคโนโลยีการเงินสมัยใหม่มาใช้แก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้เร็วก็จะยิ่งทำให้ประเทศก้าวหน้าได้มากขึ้นเท่านั้นซึ่งบางประเทศก็วางแผนเรื่องนี้ล่วงหน้ามาหลายปีแล้วเช่นที่จีนเป็นต้น