กระทรวงการต่างประเทศของอินเดียเปิดเผยข้อมูลการสละสัญชาติประจำปี 2022 ของพลเมืองอินเดีย โดยพบว่าเมื่อปีที่แล้ว มีพลเมืองอินเดียยื่นขอสละสัญชาติมากกว่า 225,000 คน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบกว่า 10 ปี หรือคิดเฉลี่ยในแต่ละวันมีคนอินเดียได้สละสัญชาติของตัวเองอยู่ที่ประมาณ 618 คนต่อวัน
เมื่อไล่ย้อนหลังกลับไปตั้งแต่ปี 2011 จนถึง ปี 2021 พบชาวอินเดียสละสัญชาติของตัวเองโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 150,000 คน โดยปี 2011 มีผู้สละสัญชาติอยู่ที่ 120,923 คน
ศาลอังกฤษตัดสินพยาบาลสาวมีความผิดจริง คดีฆ่าทารก 7 ศพ
“ซี่โครงหมูแพลนต์เบส” ในอนาคต แม้แต่กระดูกก็จะทำจากพืช!
สหรัฐฯ อนุมัติส่ง F-16 จากเดนมาร์ก-เนเธอร์แลนด์ ให้ยูเครน คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
และตัวเลขค่อย ๆ ไต่ระดับเพิ่มขึ้นจนปี 2016 อยู่ที่ 141,603 คน , ปี 2017 อยู่ที่ 133,049 คน
ส่วนปี 2020 ซึ่งเป็นปีที่อินเดียเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ครั้งใหญ่ มีพลเมืองสละสัญชาติอินเดียลดลงอยู่ที่ 85,256 คน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุด ก่อนที่ปี 2021 จะดีดตัวเพิ่มขึ้น 163,370 คน และปีที่แล้วเพิ่มสูงสุดเป็นกว่า 225,000 คน
ทั้งนี้นับตั้งแต่ปี 2011 จนถึงปีที่แล้ว หรือ 11 ปีที่ผ่านมา มีคนอินเดียสละสัญชาติไปแล้วรวมทั้งสิ้น 1,663,440 คน
แล้วคนอินเดียได้สัญชาติจากประเทศอะไรบ้าง หลังจากที่สละสัญชาติตัวเอง?
ข้อมูลจากรัฐบาลอินเดีย ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2019-2021 พบว่า มี 135 ประเทศที่ให้สัญชาติแก่คนอินเดีย ในจำนวนนี้รวมถึง สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา และออสเตรเลีย
นอกจากประเทศในฝั่งตะวันตก และออสเตรเลียแล้วในเอเชียก็มี สิงคโปร์ และญี่ปุน เป็นหนึ่งในประเทศที่มอบสัญชาติให้กับพวกเขา โดยสิงคโปร์ถือเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับที่ 7 และมีคนอินเดียที่ได้รับหนังสือเดินทางสิงคโปร์ไปแล้วราว 7,000 คนในช่วงเวลาเดียวกัน
ส่วนประเทศในแถบตะวันออกกลาง ก็มี ซาอุดีอาระเบีย อิหร่าน ที่ให้สัญชาติกับคนอินเดีย และในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้มอบสัญชาติให้คนอินเดียไปแล้ว 5 คน
ทำไมคนอินเดียถึงไม่อยากเป็นพลเมืองอินเดียอีกต่อไป?
ข้อมูลบนเว็บไซต์ The Economic Times ระบุว่า มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่บ่งชี้ว่า จริงๆแล้วคนอินเดียได้เคลื่อนย้ายอพยพถิ่นฐานไปต่างประเทศตั้งแต่สมัยโบราณ และการอพยพครั้งใหญ่เกิดขึ้น หลังจากที่อังกฤษได้ยึดครองอินเดีย และประเทศอื่นๆทั่วโลกให้เป็นอาณานิคม
ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 1834 หรือ 189 ปีที่แล้ว คนอินเดียถูกส่งไปเป็นแรงงานรับจ้างเพื่อทำงานในสวนน้ำตาลในอาณานิคมของอังกฤษ เช่น ประเทศกายอานา มอริเชียส ฟิจิ และแอฟริกาใต้ แต่ว่าปัจจัยเรื่องของการประหัตประหารทางการเมือง และความต้องการทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ทำให้เกิดการอพยพย้ายถิ่นฐาน
แม้ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าคนอินเดียจะตกเป็นเหยื่อความโหดร้าย แต่ปรากฏว่า คนอินเดียกลับมีบทบาทในการเป็นผู้นำที่สร้างคุณูปการที่โดดเด่นต่อเศรษฐกิจ และชุมชนของประเทศที่พวกเขาไปอยู่
ปัจจุบันทั่วโลกมีคนเชื้อสายอินเดียกว่า 200 คน ดำรงตำแหน่งผู้นำต่างๆ สถาบันและประเทศต่างอย่างน้อย 15 ประเทศ รวมถึง ริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร, กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ, อิรฟาน อาลี (Irfaan Ali) ประธานาธิบดีกายอานา และ อาเจย์ บังกา (Ajay Banga) ประธานธนาคารโลก
จากรายงานของสหประชาชาติ ระบุว่า ในปี 2020 อินเดียเป็นประเทศที่มีประชากรพลัดถิ่นมากที่สุดในโลก โดยในจำนวนประชากรกว่า 1,400 ล้านคน มี 18 ล้านคนอาศัยอยู่ในต่างประเทศ
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจาก Henley Private Wealth Migration ประจำปี 2023 ระบุว่า มีเศรษฐีอินเดียได้ย้ายถิ่นฐานออกไปแล้วประมาณ 6,500 คน ขณะที่จากสถิติของ Global Wealth Migration Review แสดงให้เห็นว่า ในปี 2020 มีเศรษฐีอินเดียราว 2 เปอร์เซ็นได้เดินทางไปต่างประเทศแล้ว
ทำไมคนอินเดียจำนวนมากถึงยอมสละสัญชาติตัวเอง?
รัฐบาลอินเดีย ระบุว่า คนอินเดียได้สละสัญชาติตัวเองด้วยเหตุผลส่วนตัว อย่างไรก็ตาม อมิท ทัสคุปต์ (Amit Dasgupta) อดีตกงสุลใหญ่ของอินเดีย ประจำนครซิดนีย์ ระบุว่า ตามหลักกฎหมายอินเดียไม่อนุญาตให้พลเมืองถือสองสัญชาติ และการถือสัญชาติอื่น ก็จะมีผลให้สัญชาตอินเดียถูกยกเลิกไป
แต่เหตุผลหลักที่คนอินเดียพากันย้ายถิ่นฐาน คือเรื่องของความเป็นอยู่ เพราะทุกคนต้องการชีวิตที่ดีขึ้น และความหวังของพวกเขาก็คือ การที่จะได้รับชีวิตที่ดีขึ้นต้องไปประเทศอื่น ซึ่งตามหลักสังคมวิทยา สิ่งนี้เรียกว่า ปัจจัยผลักดัน ซึ่งเมื่อผลักออกไปหรือเดินทางออกไปก็มีโอกาสที่จะได้ชีวิตดีกว่า
ทั้งนี้มีนักศึกษาอินเดียจำนวนมากที่ไปศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่ต่างประเทศ และลงเอยด้วยการลงหลักปักฐานที่นั่น เพราะประเทศที่พวกเขาไปศึกษาต่อได้จัดหางานที่ดี และอัตราค่าจ้างที่น่าสนใจให้
นอกจากนี้ยังมีอีกปัจจัยหนึ่งคือ หากพวกเขาเดินทางกลับอินเดียก็จะหางานทำได้ยาก และนี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมพวกเขาจึงสมัครขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรในประเทศที่ตนเองศึกษาอยู่
ข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการของอินเดีย ระบุว่า ปี 2022 มีนักศึกษาอินเดียเดินทางไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศมากกว่า 770,000 คน ซึ่งสูงสุดในรอบ 6 ปี
จากสถิติพบนักศึกษามากกว่า 90 เปอร์เซ็นไม่ต้องการกลับมาที่อินเดีย และเมื่อพูดถึงเศรษฐีอินเดียพบว่า พวกเขาต้องการแสวงหาหนทางการทำธุรกิจในต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยง แสวงหาสิ่งที่ดีกว่า และคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า แม้ว่าอินเดียยังคงมีสภาพแวดล้อมที่น่าดึงดูดใจสำหรับการทำธุรกิจ และการเติบโตของธุรกิจก็ตาม
นอกจากนี้รายงาน Global Wealth Migration Review ประจำปี 2020 ระบุว่า เหตุผลหลายประการที่ทำให้ผู้คนตัดสินใจย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศอื่น ได้แก่ ความปลอดภัยของผู้หญิงและเด็ก ปัจจัยด้านวิถีชีวิต เช่น สภาพภูมิอากาศและมลพิษ ความกังวลด้านการเงิน รวมถึงภาษี ความต้องการด้านการดูแลสุขภาพที่ดีขึ้นสำหรับครอบครัว และโอกาสทางการศึกษาสำหรับเด็ก และเพื่อหลบหนีจากรัฐบาลที่กดขี่
ประเด็นเรื่องของหนังสือเดินทาง หรือ Passport ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนอินเดียสละสัญชาติของตัวเอง เพราะหนังสือเดินทางของอินเดียไม่ค่อยทรงอิทธิพลเท่าใดนัก จากการจัดลำดับหนังสือเดินทางของ Henley Passport Index ล่าสุด พบว่าอยู่ที่อันดับที่ 80
ซึ่งหมายความว่า คนอินเดียที่ถือพาสปอร์ตอินเดียสามารถเดินทางไปยังประเทศต่างๆทั่วโลกแบบไม่ต้องใช้วีซ่าได้ 57 ประเทศ
ดังนั้นประเด็นเรื่องของหนังสือเดินทางก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนอินเดียสละสัญชาติของตัวเอง เพราะยิ่งหนังสือเดินทางถูกจัดอันดับว่าทรงอิทธิพลน้อย ก็ทำให้ผู้คนเลือกอพยพไปยังประเทศที่มีพาสปอร์ตที่ทรงอิทธิพลกว่า และสามารถเดินทางเข้าออกประเทศอื่นๆได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า
